เชียงใหม่เร่งถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

จังหวัดเชียงใหม่ถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ประจำปี 2567 เตรียมบรรจุในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
.
ที่ โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท เชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM.2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสรุปผลการดำเนินการในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) แบบบูรณาการ จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนกลุ่มพื้นที่ป่า ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนผลการถอดบทเรียนของหน่วยงานปฏิบัติในระดับพื้นที่ 
.
โดยที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 พฤษภาคม 2567 พบจุดความร้อน (Hotspot) รวมทั้งสิ้น 8,629 จุด ลดลงจากปี 2566 จำนวน 4,465 จุด ลดลง 34 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่เผาไหม้มีจำนวน 512,769 ไร่ ลดลงจากปี 2566 ที่มีพื้นที่เผาไหม้ถึง 1,168,624 ไร่ ลดลง 47 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าลดลงอย่างมากและทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เป็นผลจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน การบริหารจัดการเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพ และความรวดเร็วในการเข้าควบคุมไฟได้อย่างทันที ขณะเดียวกันคุณภาพอากาศ พบว่า มีค่าเกินค่ามาตรฐานรวม 87 วัน ลดลงจากปีก่อน 24 เปอร์เซ็นต์ ส่วนด้านการแพทย์และสาธารณสุข พบว่า มีจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ที่เข้าตรวจรักษาจำนวน 8,844 ครั้ง ลดลงจากปี 2566 ถึง 76 เปอร์เซ็นต์
.
โดย นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวชื่นชมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มแข็งตลอดห้วงระยะเผชิญเหตุที่ผ่านมา และด้วยสถานการณ์เอลนีโญ่ ที่ทำให้เกิดฝนน้อย มีอากาศที่ร้อนมากกว่าในปีที่ผ่านมา และพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ยังเป็นภูเขา ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายสำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่าเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายที่ได้ทำงานร่วมกัน ทำให้ผลการทำงานในปีนี้ ดีขึ้นกว่าปี 2566 ในหลายตัวชี้วัด ทั้งนี้ทุกข้อเสนอแนะทุกคำติชมของทุกหน่วยงานและพี่น้องประชาชนจากการถอดบทเรียนในครั้งนี้ จะนำมาขับเคลื่อนและพัฒนาแผนการทำงานให้ดีขึ้นในปีถัดไป ขณะเดียวกันจะนำไปบรรจุเป็นแผนยุทธศาสตร์ในระยะ 5 ปี ต่อจากนี้ ซึ่งจะมีการกำหนดเป้าหมาย ทิศทาง งบประมาณ และรายละเอียดของแผนงานโครงการต่างๆ พร้อมทั้งจะนำนวัตกรรม งานวิจัยการ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมการปฏิบัติงานมากขึ้น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น และไม่เน้นแค่ช่วงการดับไฟอย่างเดียว แต่จะให้ความสำคัญกับทุกมิติ
.
ทั้งนี้ จากการถอดบทเรียนฯ พบว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2567 สามารถทำได้ดีกว่าปี 2566 ในทุกๆ ด้าน ทั้งในส่วนของการเกิดจุดความร้อน (Hotspot) พื้นที่เผาไหม้ (Burn scar) จำนวนวันที่ค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานและจำนวนผู้ป่วย COPD ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ว่าจะลดให้ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในทุกๆ ด้านก็ตามแต่เมื่อเทียบกับปี 2566 ถือเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น
คมสันต์  คำวงค์  สวท.เชียงใหม่ /// 25 มิ.ย. 67


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar